วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

กีฬา ซอฟท์บอล

ประวัติกีฬาซอฟท์บอล
  


    ซอฟท์บอล (Softball) เป็นกีฬาที่ถือกำเนิดขึ้นมาในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานแล้ว และเป็นที่นิยมกันทั่วประเทศ นับเป็นกีฬาประจำชาติอย่างหนึ่งของชาวอเมริกันประมาณครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ผู้เล่นเบสบอลต้องการที่จะเล่นเบสบอลต่อไปในฤดูหนาวด้วย จึงทำให้เกิดเบสบอลในร่มขึ้น แต่ก็ประสบปัญหาเพราะสนามในร่มที่ใหญ่ที่สุดเพียงใดก็ยังเล็กกว่าสนามเบสบอลกลางแจ้งทั่วไป จึงมีความจำเป็นต้องดัดแปลงลูกบอลให้ใหญ่พอดี เพื่อให้ตีไปได้ไกลเท่ากับลูกบอลขนาดธรรมดากฎกติกาต่างๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เหมาะสมที่จะเล่นในร่ม อย่างไรก็ตาม เบสบอลในร่มก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
    
      ลักษณะทั่วไปของเกมและวิธีการเล่นส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับเกมเบสบอลจึงเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า เบสบอลในร่ม (Indoor Basebell) เพราะสามารถปรับปรุงให้เล่นในที่แคบหรือภายในห้องยิมฯ ได้ ต้นกำเนิดของการเล่นซอฟท์บอลอันเชื่อถือได้นั้น ตามบทความในหนังสือ Indoor Baseball Guide พิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2449 โดย American Sports Publishing Company กล่าวไว้อย่างละเอียดว่า เกมเบสบอลในร่มได้กำเนิดขึ้นที่เมืองชิคาโก กล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ. 2430 สมาชิกสโมสรแล่นเรือ ชื่อ Farragut Boat Club ได้นัดประชุมกันในโรงยิมฯ แห่งหนึ่งในเมืองนี้ เนื่องในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)

      พวกเด็กๆ ซึ่งติดตามบิดามารดามาด้วยในครั้งนี้ ต่างพากันเล่นอยู่ภายในโรงยิมฯ นอกห้องประชุม และได้เก็บเอานวมเก่าๆ (ใช้ชกมวย) ที่ทิ้งอยู่ภายในโรงยิมฯ ขว้างรับกันไปมารอบๆ ห้องอย่างสนุกสนาน ในขณะนั้นมีเด็กคนหนึ่งถือด้ามไม้กวาดเก่าๆ แล้วตีนวมกลับไปทางคนที่โยนมาให้ เขาทำเลียนแบบการตีลูกเบสบอลซึ่งเขาเคยได้เห็นการแข่งขันเกมนี้มาก่อนแล้ว

      ขณะนั้น George W. Hancock ซึ่งเป็นผู้นำทางสันทนาการในวันหยุดประจำโรงยิมฯ แห่งนี้ ขณะทำหน้าที่ควบคุมดูแลการเล่นของเด็ก ได้เกิดแนวความคิดใหม่ขึ้นมาโดยฉับพลัน จึงอุทานขึ้นว่า "Say, Boys, Let's play ball" ดังนั้นเขาและพวกเด็กๆ ได้ช่วยกันยกเบาะมวยปล้ำมาวางทำเป็นเบส หลังจากนั้นการเล่นก็เริ่มขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา โดยใช้ด้ามไม้กวาดซึ่งหักออกเป็นสองท่อนขนาดยาวพอเหมาะทำเป็นไม้ตี ใช้นวมชกมวยเก่าๆ แทนลูกบอล และเบาะมวยปล้ำแทนเบส เย็นวันเสาร์ต่อมาอีกอาทิตย์หนึ่ง G.W. Hancock นัดให้เด็กเหล่านั้นมาร่วมเล่นกันอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้เขาได้จัดเตรียมไม้ตีที่หุ้มด้วยยาง และลูกบอลใหญ่ที่นิ่มมากกว่าไว้ให้ พร้อมทั้งตั้งกติกาง่ายๆ บางข้อไว้ด้วย ครั้นเย็นของวันเสาร์ดังกล่าวตามนัดมาถึง นาย G.W. Hancock จึงจัดแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย และอ่านกติกาการเล่นพร้อมอธิบายวิธีเล่นให้ แล้วจึงเริ่มเล่นกันอย่างสนุกสนาน ต่อมา G.W. Hancock ได้แก้ไขกติกาการเล่นเกี่ยวกับลูกบอล และไม้ตีเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่โรงยิมฯ ในที่สุดจึงเรียกเกมนี้ว่าเบสบอลในร่ม โดยใช้ลูกบอลที่มีน้ำหนักเบาขนาดเส้นรอบวง 16 นิ้ว และใช้ไม้ตี เกมการเล่นในร่มได้รับความนิยมเป็นที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ทำให้อุปกรณ์การเล่นไม่เพียงพอ จึงได้มีการดัดแปลงการเล่นให้เหมาะสมกับบุคคลทุกเพศทุกวัย Lewis Rober เป็นผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้คิดริเริ่มกีฬาซอฟท์บอล โดยได้ดัดแปลงการเล่นจากในร่มมาเป็นการเล่นกลางแจ้งในปี พ.ศ. 2438 Lewis Rober เป็นสมาชิกของแผนกดับเพลิง เมืองมินนีอาโป-ลิส เขาได้แนะนำให้พนักงานดับเพลิงที่มีเวลาว่างเล่นเกมที่คิดขึ้นชื่อ คิทเท็นบอล (Kitten ball) หรือซอฟท์บอลโดยใช้มือเล่น พนักงานดับเพลิงได้เล่นกันอย่างแพร่หลายเมื่อไม่ได้ทำงาน ในช่วงระยะสองถึงสามปีแรก Rober ได้ประสบปัญหาอย่างยุ่งยากเล็กน้อยในการจัดหาลูกบอลให้เพียงพอกับผู้เล่น แต่ภายหลังเขาได้จัดหาลูกบอลให้อย่างเพียงพอกับความต้องการ

      การเล่นเบสบอลในร่ม ซึ่งใช้ลูกบอลขนาดใหญ่ขึ้นนี้ ได้ถูกโยกย้ายออกไปสู่สนามกลางแจ้งในฤดูใบไม้ผลิอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีบางภาคของประเทศเรียกชื่อการเล่นนั้นเสียใหม่ว่า Indoor-Outdoor เหล่าผู้นำกิจกรรมการแข่ง (Playground leaders) แห่งเมืองมินนีอาโปลิส และเซนต์ปอล ได้ร่วมประชุมกันเพื่อเขียนกฎกติกาเป็นฉบับแรกเมื่อปี พ.ศ. 2451 นับว่าเป็นต้นกำเนิดกติกาซอฟท์บอล และได้พัฒนาจนถึงปัจจุบันนี้ในปีเดียวกัน คณะกรรมการชุดนี้ได้ร่วมกันจัดตั้ง National Amateur Playground Ball Association แห่งสหรัฐอเมริกาขึ้นด้วย และปีต่อมา Amateur Softball Association of America ก็ถูกจัดตั้งขึ้นที่เมืองชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ กติกาซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2451 นั้น ก็ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมขึ้นในบางข้อ

      นับแต่ปี พ.ศ. 2451 เป็นต้นมา เมื่อมีการจัดตั้งรูปสมาคมแห่งชาติ และพิมพ์กติกาคู่มือการเล่นขึ้นเผยแพร่ ทำให้เกมซอฟท์บอลได้รับความนิยมแพร่หลายออกไปทั้งในหมู่เด็กและผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆจนเกือบทั่วประเทศ และก็ได้พิสูจน์แล้วว่า แม้จะเล่นในร่มหรือกลางแจ้งก็มีความสนุกสนานเช่นกัน แต่ภายหลังคนจะนิยมเล่นกันกลางแจ้งมากว่า บางครั้งจะมีการแข่งขัดนัดสำคัญๆ เป็นประจำทุกปี ทั้งมีผู้เล่นและผู้ชมจำนวนมาก

      จากการเริ่มเล่นที่แผนกดับเพลิงมินนีอาโปลิส เกมเบสบอลได้แพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วทางตะวันตก ผู้นำสันทนาการต่างยอมรับในคุณค่าของเกม และได้สาธิตการเล่นในสนามของเมืองเซนต์ปอลในปี พ.ศ. 2456 หลังจากนั้นซอฟท์บอลก็ได้เข้ามาสู่ความนิยมในปัจจุบัน

      สมาคมซอฟท์บอลตั้งขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2443 ที่เมืองมินนีอาโปลิส กติกาได้พิมพ์ครั้งแรกที่เมืองมินนีอาโปลิสในปี พ.ศ. 2451 และในปี พ.ศ. 2459 Matthew T. Caine ได้รวบรวมกติกาพิมพ์ และใช้ควบคุมการแข่งขันคิทเท็นลีก (Kitten League Ball)ประมาณปลายปี พ.ศ.2463 ประเทศแคนาดาได้นำซอฟท์บอลเข้าไปเล่นและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว การเล่นกระจายไปทั่วประเทศแคนาดา

วิวัฒนาการของซอฟท์บอล


      ชาวอเมริกันบางกลุ่มได้พยายามเปลี่ยนของเดิมให้ผิดแปลกออกไป เช่น เปลี่ยนกฎกติกาบางข้อ และเปลี่ยนชื่อเกม เช่น Kitten ball , Army ball , Playground ball , Mush ball , Diamond ball , Indoor-Outdoor etc. เป็นต้น เมื่อนักกีฬาต่างถิ่นมาแข่งขันจึงทำให้เกิดปัญหาโต้แย้งกันขึ้นในเวลาแข่งขัน ดังนั้นในปี พ.ศ. 2466 นาย Joseph Lee ประธานสภาแห่ง National Recreation Committer เมืองสปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นผู้บริหารงานด้านสันทนาการแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเรียกว่า Playground Baseball Committee ทำหน้าที่ปรับปรุงแก้ไขกฎกติกาการเล่นซอฟท์บอลให้เป็นแนวเดียวกัน และได้จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มที่สมบูรณ์ ใช้บังคับทั่วประเทศในฤดูการแข่งขันต่อมา

      ในปี พ.ศ. 2473 Lee H. Fischer และ MJ. Pauley จากเมืองชิคาโก ได้ทดลองนำการเล่นในร่มออกไปเล่นกลางแจ้ง หลังจากนั้นก็ได้สร้างสนามเล่นกลางแจ้งที่มีขนาดมาตรฐาน Fischer และ Pauley ได้จัดการแข่งขันขึ้นที่เมืองชิคาโก ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และได้เสนอให้มีการจัดแข่งขันแห่งชาติในโอกาสที่มีการแสดงสินค้าโลกในฤดูร้อนของปี พ.ศ.2476 โดยใช้ชื่อการแข่งขัน ซอฟท์บอล ซึ่งตั้งชื่อโดย Water L. Hakanson จากสมาคม Y.M.C.A. เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโดหลังจากนั้นแนวความคิดการเล่นซอฟท์บอลได้แพร่หลายในเมืองต่างๆ ทางตอนใต้ ภายใต้การสนับสนุนจากสมาคมสันทนาการแห่งชาติ และเรียกเกมการเล่นว่าเพลย์กราวด์บอล (Playground Ball) สมาคมสันทนาการแห่งชาติได้ให้การสนับสนุนเนื่องจาก

           1. เป็นการเล่นที่คล้ายกับเบสบอล
           2. สามารถเล่นได้ในสนามเด็กเล่น
           3. สตรีและเด็กหญิงก็สามารถเล่นได้เช่นเดียวกับเด็กชายและสุภาพบุรุษซึ่งไม่ทำให้นิ้วหัก โดยชื่อซอฟท์บอลมีผู้นิยมเล่นเรียกกันมากว่าเพลย์กราวด์บอลและมีผู้เล่นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากปี พ.ศ. 2475-2536 เป็นปีที่ถือว่าซอฟท์บอลได้พัฒนาอย่างเต็มที่ เพราะจากวิกฤตการณ์ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คนว่างงานจำนวนมากหันเข้ามาร่วมในศูนย์สันทนาการ จึงได้ชักชวนกันเล่นอย่างกว้างขวางทีมต่างๆ ที่เล่นก็เรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น เพลย์กราวด์บอล เบสบอล สันทนาการ คิทเท็นบอล เบสบอลตรี ซอฟท์บอล และอื่นๆ อีกมากมายในปี พ.ศ. 2475 เพราะยังไม่มีผู้ใดคิดชื่อที่เป็นมาตรฐานได้ และเป็นกีฬาที่เล่นในช่วงเวลาว่าง หรือหลังเลิกงานแล้วเท่านั้น

      ปัจจุบันกีฬาซอฟท์บอลในสหรัฐอเมริกาเป็นที่นิยมเช่นเดียวกับกีฬาเบสบอล จากผลการประชุมคณะกรรมการ ณ กรุงวอชิงตัน ดี. ซี. เมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2477 จัดโดย Recreation Cong เป็นต้นมา ทำให้กีฬาซอฟท์บอลเป็นกีฬาประจำชาติ มีการแข่งขันระหว่างเมืองต่อเมือง ระหว่างมลรัฐตลอดฝั่งตะวันออกจดฝั่งตะวันตก และร่วมดำเนินการโดย The Joint Rules Committee ร่วมกับสมาคมซอฟท์บอลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง Amateur Athletics Union แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาFischer และ Pauley ได้จัดการแข่งขันเพื่อชิงชนะเลิศแห่งชาติขึ้นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2476 มีทีมสมัครเข้าแข่งขัน 20 ทีม ขณะนั้น Fischer ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมซอฟท์บอลสมัครเล่น พบว่าแต่ละทีมมีกฎกติกาของตนเองและต่างก็ไม่ยอมซึ่งกันและกัน ไม้ตีหรือลูกบอลก็มีขนาดไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันก็ดำเนินต่อไปได้สำเร็จ ทีม J.L. Gills จากชิคาโก เป็นทีมชนะเลิศ จากการแข่งขันทำให้เกิดความคิดที่จะปรับปรุงกติกาให้เป็นมาตรฐานอันเดียวกัน

      จากการที่ Fischer และ Pauley ได้แนะนำการเล่นซอฟท์บอลทำให้มีผู้เล่นมากกว่า 20,000,000 คน ทั้งคนสูงอายุ เด็กชาย เด็กหญิง และวัยรุ่น โดยเฉพาะสตรีมีเล่นถึง 20,000,000 คน ซึ่งมีทั้งที่เล่นประจำและเล่นในบางโอกาสในปี พ.ศ. 2481 Wilbur J. Landis ได้นำซอฟท์บอลเข้าไปเผยแพร่แก่คนงานบริษัทผลิตเครื่องยนต์ที่เมืองดีทรอยต์ ทำให้ซอฟท์บอลพัฒนายิ่งขึ้น

      ในปี พ.ศ. 2485 การคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงจัดให้มีการแข่งขันเป็นเขตโดยผู้ชนะแต่ละเขต ผู้ชนะเลิศในปีที่ผ่านมา และทีมเจ้าภาพที่ชนะเลิศจะมาแข่งขันกันอีกครั้งหนึ่ง วิธีจัดการแข่งขันจะจัดแบบพบกันหมด 2 ครั้งในรอบแรก ซึ่งสามารถจัดได้เนื่องจากมีทีมเข้าแข่งขันน้อยลงในระยะแรกของการจัดการแข่งขันซอฟท์บอล ได้จัดการแข่งขันตามสนามต่างๆ เท่าที่จะหาได้ ไม่มีการเก็บค่าชม ผู้เข้าชมจะอยู่รอบๆ สนามอย่างหนาแน่น หากมีที่ไม่พอก็จะลงไปในสนาม ทำให้ผู้เล่นไม่ได้รับความสะดวก ต่อมาจึงทำรั้วกั้นสนามขึ้นหลายแห่ง สร้างอัฒจันทร์และติดตั้งไฟให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องและต่อมาจึงเก็บค่าชม ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้มีรายได้คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะประชาชนก็พร้อมที่จะเสียค่าชม

      ในปี พ.ศ. 2503 ได้มีการแข่งขันซอฟท์บอลระดับนานาชาติ และมีสมาคมซอฟท์บอลเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และออสเตรีย

      ในปี พ.ศ. 2505 ผู้เล่น 1,200,000 คน และทีม 75,500 ทีม ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมซอฟท์บอลสมัครเล่นของอเมริกา มีสมาชิกสโมสร 10,000 แห่งมีสวนสาธารณะปิดที่จัดให้เล่น 13,000 แห่ง และสนามทั่วๆ ไปเกือบ 16,300 แห่ง จากการสำรวจพบว่าที่รัฐโอไฮโอมีสนามซอฟท์บอลที่ติดไฟ 186 สนาม รัฐนิวเจอร์ซี มีสนามเล่นมากกว่า 2,000 สนาม รัฐมิชิแกน มีผู้เล่น 4,756,500 คน รัฐโอไฮโอ มีเกมการแข่งขันรวม 38,415 เกม สถิติที่มีผู้ชมสูงสุดในเกมเดียวถึง 35,000 คน ในการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศที่สนามวิกเล่ย์ ลอสแอนเจลีส และทีม แคนาดา มีผู้ชมถึง 17,511 คนในคู่แข่งขันระหว่างทีมบริษัทบริก จากดีทรอยต์ กับ ทีมแฮมิลตัน พี จี จากโตรอนโต ในปี พ.ศ. 2484 สถิติการแข่งขันที่ยาวนานที่สุดถึง 42 อินนิ่ง โดยแข่งขันที่เมืองเค็นโนซ่า รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2485 โดยทีมอิตาเลียนอเมริกันคลับเป็นทีมชนะ 1 ต่อ 0 ในปี พ.ศ. 2495 มีการแข่งขัน 23 อินนิ่ง ระหว่างทีมเดนเวอร์ และทีมเจอร์ซี่ โดยแข่งที่เมือง บริดกีพอร์ด รัฐคอนเนกติกัต โดย Harvery เป็นพิชเชอร์ของทีมเดนเวอร์ ซึ่งทำสถิติทำให้ผู้เล่นออก (Strike out) ถึง 35 คน ปรากฏว่าทีมเจอร์ซี่ ชนะ 4 ต่อ 3

      สถิติของ Ragan ในปี พ.ศ. 2493 ในการแข่งขันชิงชนะเลิศของโลกชนะ 5 ครั้ง ทำให้ผู้เล่นออก 77 คน ช่วยให้ทีมได้คะแนนเฉลี่ย .073 ปี พ.ศ. 2494 ในการแข่งขันระดับโลกทำให้ผู้เล่นออก 60 คน ในการเล่น 48 อินนิ่ง และช่วยให้ทีมได้ 4 คะแนน (Runs) ในปี พ.ศ. 2495 สถิติของ Ragan ดีขึ้นในการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งโลก ทำให้ผู้เล่นออก 68 คน ในการเล่น 56 อินนิ่งได้ 6 คะแนน

      ประวัติซอฟท์บอลในประเทศไทย

           พ.ศ. 2494 เริ่มมีการเรียนในโรงเรียนฝึกหัดครูพลศึกษากลาง
           พ.ศ. 2503 กรมพลศึกษาจัดการแข่งขันประเภทมหาวิทยาลัยและประชาชน ชาย หญิง
           พ.ศ. 2509 - จัดตั้งสมาคมซอฟท์บอลแห่งประเทศไทย นายสวัสดิ์ เลขยานนท์ เป็นนายกสมาคม
                - เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหพันธ์กีฬาซอฟท์บอลสากล
                - แข่งขันสาธิตทีมหญิงไทยกับฟิลิปปินส์ ในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2519 ใช้ชื่อ สมาคมซอฟท์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (The Amateur Softball Association of Thailand)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น